มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ

สามีดิฉันติดตามอ่านหนังสือเกี่ยวกับสวิงเสมอเลยค่ะ และก็เพราะสิ่งนั้นแหละค่ะ ดิฉันก็เลยเป็น ผลพลอยได้ ที่รู้เรื่องเหล่านี้ไปโดยปริยายเราสองคนมักจะถกปัญหากันในเรื่องบนเตียงเสมอค่ะ และหาทางปรับปรุง แก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ในเรื่องเพศของคู่เรา ดิฉันและสามีเรามีประสบการณ์เรื่องสวิงโดยบัญเอญค่ะ ที่แรก ดิฉันไม่ทราบว่าสิ่งนั้นผู้คนเขาเรียกว่า "สวิง" จนกระทั้งสามีดิฉันมาอ่านพบในหนังสือเล่มหนึ่งนั่นแหละค่ะ เราจึงทราบว่าในเมืองไทยเราไม่ใช่จะมีแต่ดิฉันเท่านั้น ที่มีประสบการณ์และอารมณ์ต้องการแบบนี้ แต่ก็ยังมี ผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่มีอารมณ์และความต้องการแบบดิฉัน มาลองฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ ดิฉันและสามีดูซี่ค่ะ ดิฉันและสามีเราทำงานองค์กรเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ อยุ่ฝ่ายบริหารทั้งคู่เลยค่ะ สามีดิฉันเป็นผู้จัดการฝ่าย ต่างประเทศค่ะส่วนดิฉันทำงานอีกแห่งหนึ่งอยู่ฝ่ายบุคคลค่ะเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะสามีดิฉันต้องไปร่วมสัมนา ภาคพื้นเอเชียที่โรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่งที่ชะอำดิฉันและสามีเราเอารถส่วนตัวไปเลยไม่ได้เดินทางพร้อมรถทั่วร์ เราสองคนไปถึงที่หมายก่อนล่างหน้าเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ค่ะ เมื่อมาถึง ฝ่ายต้อนรับของโรงแรมได้เริ่ม จัดการเรื่องที่พักให้กับคณะจนครบกันทุกท่าน และด้วยช่วงนั้นห้องพักของโรงแรมได้เต็มหมดเลยค่ะ บาง คนยังต้องเอาเตียงเสริมเข้าไปนอนด้วยกันเลย ดิฉันและสามีได้ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อรอพร้อมที่ จะรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกันทั้งคณะ ซึ่งจัดเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ดิฉันและสามีเลยลงมารอคณะที่ห้อง ล๊อบบี้ของโรงแรมขณะเดียวกันมันช่างเป็นการเอิญจริงๆค่ะ ที่เพื่อนสามีดิฉันและภรรยาเขาซึ่งแรกที่เดียว เขายกเลิกไม่ร่วมสัมมนาอย่างกะทันหัน เป็นเพราะเหตุอันใดไม่ทราบได้ เขาเกิดเปลี่ยนใจเข้าร่วมสัมมนาใน ครั้งนี้ สามีดิฉันได้ติดต่อกับทางโรงแรม แต่ไม่มีห้องพักให้เลย เขาจะย้ายไปอยู่โรงแรมอีกแห่งหนึ่งใกล้ ๆ กัน แต่มันก็จะไม่สะดวกเพราะดูจะเหงาและว้าเหว่ สามีดิฉันเราเลยตกลงว่า เอาเตียงเสริมเข้าไปในห้องของ เราเลย โดยตกลงกันว่าฝ่ายหญิงจะนอนกันบนเตียงใหญ่ และสามีดิฉันกับเพื่อนเขาจะลงมานอนเตียงเสริม กัน ดิฉันเลยพาทั้งคู่ขึ้นไปที่ห้องพัก เพราะอย่างไรก็คิดว่ามันอาจจะขลุกขลักเพียงแค่คืนสองคืนเท่านั้น อีก อย่างหนึ่งสามีดิฉันกับคู่สามีภรรยาคู่นี้ก็สนิทกันพอสมควร หลังอาหารกลางวัน เราก็เข้าสัมมนากันตามปกติ จนกระทั้งรับประทานอาหารค่ำกันแล้ว เราสี่คนจึงลงมานั่งฟังเพลงกัน ที่ห้องล๊อบบี้ สามีดิฉันกับคุณศักดิ์ ก็นั่งดื่มเหล้าคุยกัน ส่วนดิฉันกับคุณผกามาศก็นั่งคุยเรื่องงานของเราแต่ละที่กัน จนเวลาล่วงเข้าเกือบสี่ทุ่ม แล้ว ดิฉันยังไม่รู้สึกง่วง แต่คุณผกามาศนั้นแกรู้สึกจะมึนๆ หน่อยกับเหล้าค๊อทเท